ต้นโอ๊ค (Oak) ภาษาเยอรมันเรียก "Eiche" เป็นไม้ยืนต้น ปลูกขึ้นในเมืองหนาว....ใบโอ๊กเป็นสัญลักษณ์ในเหรียญและธนบัตรของประเทศเยอรมัน สมัยปี ค.ศ.1989 ....เป็นสัญลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์ ความบริสุทธิ์ ความจริง....ในสมัยโบราณชายหญิงจะใช้ใต้ต้นโอ๊กเป็นสถานที่สัญญารักต่อกัน....ผู้ใดถือใบถือใบโอ๊กสด เขาเชื่อกันว่าเป็นคนไว้ใจได้....ต้นโอ๊กมีน้ำมันและโปรตีนมาก คนและสัตว์รับประทานได้ พวกวัวชอบกินมาก ในสมัยโบราณชาวยุโรปตอนกลางใช้ใบโอ๊กบริโภคเป็นอาหารหลัก ผลโอ๊กนำไปคั่วแล้วบดทำกาแฟได้....ต้นโอ๊กเป็นที่อยู่ของพวกกระรอก มันชอบกินลูกโอ๊ก....เขาจึงนิยมเรียกกระรอกที่อยู่บนต้นโอ๊คว่า "กระต่ายโอ๊ค"
ต้นโอ๊คมีหลายชนิด เช่นชนิดมีก้านยาวเรียกว่า โอ๊คก้าน (Stieleiche) มีดอกและผลติดก้านยาว ความยาวของก้านประมาณ ๑-๓ คู่ มีก้านสีเขียว ใบสีเขียวเข้ม ขึ้นในป่าและชอบขึ้นริมแม่น้ำ มีลำต้นใหญ่สูง อีกชนิดหนึ่งชื่อ โอ๊คองุ่น (Traubeneiche) มีก้านสั้น ทั้งสิงชนิดนี้สามารถเจริญงอกงามในพื้นที่แห้งแล้งและที่เป็นหินก็ได้ ลำต้นมีลักษณะตรง มีความสูงประมาณ ๒๐-๓๐ เมตร ในประเทศเยอรมันปลูกในพื้นที่ป่าประมาณ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ป่า...โอ๊คแดงเป็นโอ๊คขึ้นในอเมริกาเหนือ เติบโตเร็วมาก สูงปีละประมาณ ๒ เมตร
ในแถบยุโรปนิยมปลูกในสวนสาธาณะ เพราะว่าในฤดูใบไม้ร่วงใบจะเปลี่ยนสีสวยงามมาก และยังปลูกในป่าเป็นต้นไม้ป่าด้วย...ไม้โอ๊คใช้ทำประโยชน์ได้สารพัด เช่น ทำเฟอร์นิเจอร์ ทำถังเหล้า ถังไวน์ ทำเรือ...ชาวอังกฤษ ชาวฮอนแลนด์ ชาวสเปญ ใช้สร้างเรือในสมัยสงคราม....เหตุผลที่มีการปลูกป่าไม้โอ๊คก็เพราะเพื่อประโยชน์ทางด้านการทหารและด้านธุรกิจของประเทศ ไม้โอ๊คมีราคาแพงมาก เพราะต้นโอ๊กมีอายุเป็นร้อย ๆ ปี การทำให้ไม้แห้งแต่ละต้นก็ใช้เวลานานมาก จึงทำให้มีค่ามีราคามาก
ต้น Linde (ลินเด้) เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้นไม้แห่งความเชื่อ ภายใต้ต้น Linde นี้นำความจริงและความสว่างมาสู่ผู้ที่มีความขัดแย้งหรือวิวาทกัน เขาจึงใช้เป็นสถานที่ "ตัดสินว่าความ" ในสมัยโบราณจนถึงศตวรรษที่ 18 ต้นลินเด้ได้รับการตั้งชื่อว่า "ลินเด้แห่งความเสรี" ผู้ใดอยูใต้ต้นลินเด้ ผู้นั้นจะไม่ถูกรุกรานหรือไม่ถูกรังแกได้
ต้น Linde มีสองชนิด คือต้นลินเด้ฤดูหนาว มีใบสีเขียวเข้มและหลังใบจะเป็นขน จะออกดอกในกลางเดือนมิถุนายน มีดอกเป็นช่อ ๆ ละ ๕-๑๐ ดอก มีผลกลม ๆ ส่วนลินเด้ฤดูร้อนจะออกดอกก่อนลินเด้ฤดูหนาว ๒ สัปดาห์ จะมีดอกเป็นช่อ ๆ ละ ๓-๕ ดอก มีผลเป็นเหลี่ยม ๆ ต้นลินเด้ทั้งสองชนิดมีลักษณะเป็นพุ่ม มีใบดกมาก แผ่กว้างคลุมดิน..... ต้น Sommerlinde สูงสุด 40 เมตร ต้น Winterlinde สูงสุด 30 เมตร ใบมีลักษณะเหมือนรูป "หัวใจ" ใบสองข้างไม่เท่ากัน มีเอกลักษณ์พิเศษคือ ดอกเป็นช่อมีก้านยาวและช่อซ้อนกันอย่างได้สัดส่วนกับความยาวของก้าน....ต้นลินเด้ทั้งสองชนิดนี้ใบร่วงเร็ว จึงทับถมอยู่ที่ใต้ต้นจนกลายเป็นปุ๋ยสำหรับบำรุงต้น ใบและดอกให้เจริญงอกงาม ต้นไม้ประเภทนี้ชอบขึ้นแม้กระทั่งที่เป็นเนิน รากของมันสามารถช่วยยึดพื้นดินให้แน่นขึ้น
โดยเฉพาะต้นลินเด้ฤดูหนาวช่วยทำให้อาการไม่ชื้น มันชอบขึ้นกลางแจ้งมีแดดจ้าและในที่กึ่งแดดกึ่งร่มมันก็ชอบเหมือนกัน....เมื่อร้อยปีมาแล้ว ในป่ามีต้นลินเด้ขึ้นมาก เมล็ดของมันเป็นอาหารของพวกหนูและตัวเพลี้ยชอบกินใบ พวกผีเสื้อชอบกินน้ำผึ้งจากดอกลินเด้มาก ดอกลินเด้ป่าทำให้อากาศเสีย จึงไม่เป็นที่นิยมปลูกลินเด้ป่า....ยังมีลินเด้อีกชนิดหนึ่งชื่อ ลินเด้เงิน "Silberlinde" ต้นกำเนิดที่ยุโรปตอนตะวันออกเฉียงใต้ นิยมปลูกตามสวนสาธารณะและริมถนนเป็นแนวขนานกันสองข้างทาง ดูร่มรื่นสวยงามมาก....ดอกลินเด้ใช้ทำชาดื่มแก้ไข้หวัดได้ ขับเหงื่อและสร้างภูมิคุ้มกันได้ด้วย นอกจากนั้นชาลินเด (Lindetee) ดื่มก่อนเข้านอน ช่วยทำให้หลับสบาย เพราะไปช่วยระงับประสาท มีความสงบไม่คิดมาก....ดอกลินเด้ใช้ทำน้ำมัน เป็นยาระบายช่วยการย่อยอาหาร แก้โรคปวดศีรษะ โรคไมเกรน และโรคนอนไม่หลับ....ไม้ลินเด้นิยมใช้แกะสลักทำองค์พระแม่มาเรีย เพราะว่าเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์
ต้นโอ๊คมีหลายชนิด เช่นชนิดมีก้านยาวเรียกว่า โอ๊คก้าน (Stieleiche) มีดอกและผลติดก้านยาว ความยาวของก้านประมาณ ๑-๓ คู่ มีก้านสีเขียว ใบสีเขียวเข้ม ขึ้นในป่าและชอบขึ้นริมแม่น้ำ มีลำต้นใหญ่สูง อีกชนิดหนึ่งชื่อ โอ๊คองุ่น (Traubeneiche) มีก้านสั้น ทั้งสิงชนิดนี้สามารถเจริญงอกงามในพื้นที่แห้งแล้งและที่เป็นหินก็ได้ ลำต้นมีลักษณะตรง มีความสูงประมาณ ๒๐-๓๐ เมตร ในประเทศเยอรมันปลูกในพื้นที่ป่าประมาณ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ป่า...โอ๊คแดงเป็นโอ๊คขึ้นในอเมริกาเหนือ เติบโตเร็วมาก สูงปีละประมาณ ๒ เมตร
ในแถบยุโรปนิยมปลูกในสวนสาธาณะ เพราะว่าในฤดูใบไม้ร่วงใบจะเปลี่ยนสีสวยงามมาก และยังปลูกในป่าเป็นต้นไม้ป่าด้วย...ไม้โอ๊คใช้ทำประโยชน์ได้สารพัด เช่น ทำเฟอร์นิเจอร์ ทำถังเหล้า ถังไวน์ ทำเรือ...ชาวอังกฤษ ชาวฮอนแลนด์ ชาวสเปญ ใช้สร้างเรือในสมัยสงคราม....เหตุผลที่มีการปลูกป่าไม้โอ๊คก็เพราะเพื่อประโยชน์ทางด้านการทหารและด้านธุรกิจของประเทศ ไม้โอ๊คมีราคาแพงมาก เพราะต้นโอ๊กมีอายุเป็นร้อย ๆ ปี การทำให้ไม้แห้งแต่ละต้นก็ใช้เวลานานมาก จึงทำให้มีค่ามีราคามาก
ต้น Linde (ลินเด้) เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้นไม้แห่งความเชื่อ ภายใต้ต้น Linde นี้นำความจริงและความสว่างมาสู่ผู้ที่มีความขัดแย้งหรือวิวาทกัน เขาจึงใช้เป็นสถานที่ "ตัดสินว่าความ" ในสมัยโบราณจนถึงศตวรรษที่ 18 ต้นลินเด้ได้รับการตั้งชื่อว่า "ลินเด้แห่งความเสรี" ผู้ใดอยูใต้ต้นลินเด้ ผู้นั้นจะไม่ถูกรุกรานหรือไม่ถูกรังแกได้
ต้น Linde มีสองชนิด คือต้นลินเด้ฤดูหนาว มีใบสีเขียวเข้มและหลังใบจะเป็นขน จะออกดอกในกลางเดือนมิถุนายน มีดอกเป็นช่อ ๆ ละ ๕-๑๐ ดอก มีผลกลม ๆ ส่วนลินเด้ฤดูร้อนจะออกดอกก่อนลินเด้ฤดูหนาว ๒ สัปดาห์ จะมีดอกเป็นช่อ ๆ ละ ๓-๕ ดอก มีผลเป็นเหลี่ยม ๆ ต้นลินเด้ทั้งสองชนิดมีลักษณะเป็นพุ่ม มีใบดกมาก แผ่กว้างคลุมดิน..... ต้น Sommerlinde สูงสุด 40 เมตร ต้น Winterlinde สูงสุด 30 เมตร ใบมีลักษณะเหมือนรูป "หัวใจ" ใบสองข้างไม่เท่ากัน มีเอกลักษณ์พิเศษคือ ดอกเป็นช่อมีก้านยาวและช่อซ้อนกันอย่างได้สัดส่วนกับความยาวของก้าน....ต้นลินเด้ทั้งสองชนิดนี้ใบร่วงเร็ว จึงทับถมอยู่ที่ใต้ต้นจนกลายเป็นปุ๋ยสำหรับบำรุงต้น ใบและดอกให้เจริญงอกงาม ต้นไม้ประเภทนี้ชอบขึ้นแม้กระทั่งที่เป็นเนิน รากของมันสามารถช่วยยึดพื้นดินให้แน่นขึ้น
โดยเฉพาะต้นลินเด้ฤดูหนาวช่วยทำให้อาการไม่ชื้น มันชอบขึ้นกลางแจ้งมีแดดจ้าและในที่กึ่งแดดกึ่งร่มมันก็ชอบเหมือนกัน....เมื่อร้อยปีมาแล้ว ในป่ามีต้นลินเด้ขึ้นมาก เมล็ดของมันเป็นอาหารของพวกหนูและตัวเพลี้ยชอบกินใบ พวกผีเสื้อชอบกินน้ำผึ้งจากดอกลินเด้มาก ดอกลินเด้ป่าทำให้อากาศเสีย จึงไม่เป็นที่นิยมปลูกลินเด้ป่า....ยังมีลินเด้อีกชนิดหนึ่งชื่อ ลินเด้เงิน "Silberlinde" ต้นกำเนิดที่ยุโรปตอนตะวันออกเฉียงใต้ นิยมปลูกตามสวนสาธารณะและริมถนนเป็นแนวขนานกันสองข้างทาง ดูร่มรื่นสวยงามมาก....ดอกลินเด้ใช้ทำชาดื่มแก้ไข้หวัดได้ ขับเหงื่อและสร้างภูมิคุ้มกันได้ด้วย นอกจากนั้นชาลินเด (Lindetee) ดื่มก่อนเข้านอน ช่วยทำให้หลับสบาย เพราะไปช่วยระงับประสาท มีความสงบไม่คิดมาก....ดอกลินเด้ใช้ทำน้ำมัน เป็นยาระบายช่วยการย่อยอาหาร แก้โรคปวดศีรษะ โรคไมเกรน และโรคนอนไม่หลับ....ไม้ลินเด้นิยมใช้แกะสลักทำองค์พระแม่มาเรีย เพราะว่าเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์