สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน....หวังว่าทุกท่านคงสบายดีนะคะ เมื่อสองวันมานี้ฉันก็ได้ไปเดินเล่นบนภูเขาในหมู่บ้าน ก็ที่เดิมนั่นแหละ เพราะเป็นสถานที่เดินเล่นของคนและสุนัขโดยเฉพาะ วันนี้อากาศดีมีแสงตะวันฉายมานิด ๆ ก็ยังดีกว่าหมอกมืดมัวสลัว....ปรกติตอนเช้าวันเสาร์ จะไม่มีไปเดินเล่นในป่าบนภูเขา คนส่วนใหญ่ก็นิยมไปเดินตามตลาดนัด หรือเดินตามซุปเปอร์มาร์คกัน แต่เช้านี้เรารีบไปเดินป่ากันแต่เช้า ก็เป็นเรื่องแปลกอยู่นะ เพราะไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน
สรรพสิ่งทั้งหลายเกิดเพราะมีเหตุปัจจัย นี่เป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ ก็เป็นเรื่องจริงนะ เพราะเหตุว่าสิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฏให้จิตรู้ทางทวารทั้ง ๖ นี้เป็นวิบากหรือผลของกรรมที่ได้กระทำไว้แล้ว
แต่อดีต และกรรมในอดีตก็คือเหตุปัจจัยให้เกิดวิบากหรือผลในปัจจุบันนั่นเอง....การที่ฉันและครอบครัวต้องไปเดินเล่นในป่าเขาแต่เช้า ก็ต้องมีเหตุปัจจัยอย่างแน่นอน แต่เราไม่สามารถทราบได้ว่า อะไรคือเหตุปัจจัย.....เมื่อเราไปถึงสถานที่นั้น ก็ต้องตกใจและแปลกใจตาม ๆ กัน เพราะเห็นรถจอดเรียงรายข้างทางไปจนถึงสถานที่จอดรถ มีรถจอดเต็มไปหมด แต่ไม่เห็นมีคน ไม่ทราบว่าคนเหล่านั้นอยู่ที่ไหน รู้สึกเงียบมากเพราะเป็นเวลาเช้ามากสำหรับการเดินเล่น เราเดินกันอย่างมีความสุข อากาศสดชื่นดี ไม่มีผู้คนเดินผ่านไปมาให้รบกวนอารมณ์....ทันใดนั้นสายตาก็ได้ไปสะดุดกับร่าง ๆ หนึ่งนั่งเก้าอี้ขาเดียวอยู่ข้างเหวลึก ใส่ชุดสีเขียวใบไม้ ใส่หมวกสีเขียวปีกมีแถบริบบิ้นสีแดงคาดรอบหมวกเป็นสัญลักษณ์ของนายพราน ในมือกำปืนไว้แน่น....พวกเราก็ตกใจกันอีกเป็นรองที่ ๒ สามีฉันบอกว่า "หยุดคุยกัน ๆ " เราก็เลยงงงันกันใหญ่ทีนี้ ได้แต่สงสัยอะไรกันหนอ อยู่ ๆ ก็มาห้ามเราพูดกัน แล้วสามีก็พูดขึ้นว่า "คนที่เห็นนั่งเก้าอีกขาเดียวนั่นน่ะ เขาเป็นพวกนายพราน"....พอได้ฟังเช่นนั้น ฉันก็ถึงบางอ้อพอดีเลย ที่เราต้องมาที่นี่แต่เช้ากัน ก็เพราะว่าจะได้มาช่วยชีวิตสัตว์ให้รอดจากลูกปืนของพวกนายพรานนั่นเอง
พอเราเดินเข้าไปใกล้นายพราน ๆ ได้หันมาทักพวกเราตามมารยาท สามีฉันเลยถือโอกาสถามเขาว่า "ทำอะไรกัน" เขาตอบว่า "จะล่าหมูป่ากัน เมื่อเช้าก็ล่ากวางไปแล้ว ๑ ตัว" พอฉันได้ยินนายพรานพูดดังนั้น จึงรีบพากันเดินผ่านเขาไป แล้วเราก็พากันคุยส่งเสียงดัง เพื่อที่จะให้พวกสัตว์ไม่ออกมาเดินในบริเวณนั้น เราเดินกันเกือบครึ่งชั่วโมง และฉันเองก็ได้เก็บภาพสวย ๆ ไว้มาฝากท่านผู้อ่านด้วยล่ะ....เห็นกลุ่มนายพรานหลายคน พากันซุกซ่อนหลบอยู่ในเหวเพื่อล่าสัตว์ แต่ปรากฏว่าวันนี้พวกเขาโชคไม่ดีเลย พอเราเดินกลับไปขึ้นรถ พวกเขาก็เตรียมจะกลับบ้านเหมือนกัน พวกเขาคงจะบ่นด่าพวกเราอ่วมแน่ ๆ เลย แต่ไม่เป็นไร.... คนพวกนี้เขาไม่รู้จักเรื่องกฏแห่งกรรม จึงได้คิดก่อกรรมสร้างเวรกับพวกสัตว์ สักวันเขาจะต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามวันนี้ถือว่าเป็นวันพิเศษของเรา ที่ได้ช่วยชีวิตสัตว์หลายชีวิตก็ว่าได้
ช่วงนี้ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามมาก และใบไม้บางประเภทก็หล่นร่วงเร็วมาก พอเริ่มเป็นสีเหลืองอ่อนก็ร่วงซะแล้ว บ้างก็ทนทานติดต้นท้าทายลมฝนก็ไม่ยอมหล่น ดูภาพรวม ๆ ก็สวยไปอีกแบบ....ขอเชิญชมภาพสวย ๆฤดูใบไม้ร่วงจ๊ะ
ได้ชมป่าเขาฤดูใบไม้ร่วงแล้วรู้สึกเป็นยังไงบ้างคะ....ยังมีภาพสวย ๆ อีกเยอะ เอาไว้พบกันอีกคราวต่่อไปนะคะ
สรรพสิ่งทั้งหลายเกิดเพราะมีเหตุปัจจัย นี่เป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ ก็เป็นเรื่องจริงนะ เพราะเหตุว่าสิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฏให้จิตรู้ทางทวารทั้ง ๖ นี้เป็นวิบากหรือผลของกรรมที่ได้กระทำไว้แล้ว
แต่อดีต และกรรมในอดีตก็คือเหตุปัจจัยให้เกิดวิบากหรือผลในปัจจุบันนั่นเอง....การที่ฉันและครอบครัวต้องไปเดินเล่นในป่าเขาแต่เช้า ก็ต้องมีเหตุปัจจัยอย่างแน่นอน แต่เราไม่สามารถทราบได้ว่า อะไรคือเหตุปัจจัย.....เมื่อเราไปถึงสถานที่นั้น ก็ต้องตกใจและแปลกใจตาม ๆ กัน เพราะเห็นรถจอดเรียงรายข้างทางไปจนถึงสถานที่จอดรถ มีรถจอดเต็มไปหมด แต่ไม่เห็นมีคน ไม่ทราบว่าคนเหล่านั้นอยู่ที่ไหน รู้สึกเงียบมากเพราะเป็นเวลาเช้ามากสำหรับการเดินเล่น เราเดินกันอย่างมีความสุข อากาศสดชื่นดี ไม่มีผู้คนเดินผ่านไปมาให้รบกวนอารมณ์....ทันใดนั้นสายตาก็ได้ไปสะดุดกับร่าง ๆ หนึ่งนั่งเก้าอี้ขาเดียวอยู่ข้างเหวลึก ใส่ชุดสีเขียวใบไม้ ใส่หมวกสีเขียวปีกมีแถบริบบิ้นสีแดงคาดรอบหมวกเป็นสัญลักษณ์ของนายพราน ในมือกำปืนไว้แน่น....พวกเราก็ตกใจกันอีกเป็นรองที่ ๒ สามีฉันบอกว่า "หยุดคุยกัน ๆ " เราก็เลยงงงันกันใหญ่ทีนี้ ได้แต่สงสัยอะไรกันหนอ อยู่ ๆ ก็มาห้ามเราพูดกัน แล้วสามีก็พูดขึ้นว่า "คนที่เห็นนั่งเก้าอีกขาเดียวนั่นน่ะ เขาเป็นพวกนายพราน"....พอได้ฟังเช่นนั้น ฉันก็ถึงบางอ้อพอดีเลย ที่เราต้องมาที่นี่แต่เช้ากัน ก็เพราะว่าจะได้มาช่วยชีวิตสัตว์ให้รอดจากลูกปืนของพวกนายพรานนั่นเอง
พอเราเดินเข้าไปใกล้นายพราน ๆ ได้หันมาทักพวกเราตามมารยาท สามีฉันเลยถือโอกาสถามเขาว่า "ทำอะไรกัน" เขาตอบว่า "จะล่าหมูป่ากัน เมื่อเช้าก็ล่ากวางไปแล้ว ๑ ตัว" พอฉันได้ยินนายพรานพูดดังนั้น จึงรีบพากันเดินผ่านเขาไป แล้วเราก็พากันคุยส่งเสียงดัง เพื่อที่จะให้พวกสัตว์ไม่ออกมาเดินในบริเวณนั้น เราเดินกันเกือบครึ่งชั่วโมง และฉันเองก็ได้เก็บภาพสวย ๆ ไว้มาฝากท่านผู้อ่านด้วยล่ะ....เห็นกลุ่มนายพรานหลายคน พากันซุกซ่อนหลบอยู่ในเหวเพื่อล่าสัตว์ แต่ปรากฏว่าวันนี้พวกเขาโชคไม่ดีเลย พอเราเดินกลับไปขึ้นรถ พวกเขาก็เตรียมจะกลับบ้านเหมือนกัน พวกเขาคงจะบ่นด่าพวกเราอ่วมแน่ ๆ เลย แต่ไม่เป็นไร.... คนพวกนี้เขาไม่รู้จักเรื่องกฏแห่งกรรม จึงได้คิดก่อกรรมสร้างเวรกับพวกสัตว์ สักวันเขาจะต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามวันนี้ถือว่าเป็นวันพิเศษของเรา ที่ได้ช่วยชีวิตสัตว์หลายชีวิตก็ว่าได้
ช่วงนี้ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามมาก และใบไม้บางประเภทก็หล่นร่วงเร็วมาก พอเริ่มเป็นสีเหลืองอ่อนก็ร่วงซะแล้ว บ้างก็ทนทานติดต้นท้าทายลมฝนก็ไม่ยอมหล่น ดูภาพรวม ๆ ก็สวยไปอีกแบบ....ขอเชิญชมภาพสวย ๆฤดูใบไม้ร่วงจ๊ะ
ได้ชมป่าเขาฤดูใบไม้ร่วงแล้วรู้สึกเป็นยังไงบ้างคะ....ยังมีภาพสวย ๆ อีกเยอะ เอาไว้พบกันอีกคราวต่่อไปนะคะ