โดย...พระมหาสนอง ปัจโจปการี
คุณโยมเชื่อไหมว่า พระกลัวใคร ? ก็กลัวเด็กอนุบาลไง อ้าว !...เด็กแค่นี้จะกลัวได้อย่างไร ? กลัวซิ...คุณโยมไม่รู้หรอกว่า เด็กอนุบาลถูกปลูกฝังจากคุณครูว่า
"นี่เธอ อย่าเข้าใกล้พระนะ เดี๋ยวบาป"
เด็กอนุบาลจำได้ขึ้นใจ "พระคือตัวบาป"
อีกสี่วันต่อมา พระเข้าไปในโรงเรียนแห่งนั้นพอดี เด็กอนุบาลคนนั้นเรียกเพื่อนให้มาดูแล้วพูดว่า
"นี่เธอ อย่าเข้าใกล้พระนะ พระเป็นตัวบาป"
เวรกรรมของพระจริง ๆ นี่แหละเขาจึงพูดว่า...
คุณโยมเชื่อไหมว่า พระกลัวใคร ? ก็กลัวเด็กอนุบาลไง อ้าว !...เด็กแค่นี้จะกลัวได้อย่างไร ? กลัวซิ...คุณโยมไม่รู้หรอกว่า เด็กอนุบาลถูกปลูกฝังจากคุณครูว่า
"นี่เธอ อย่าเข้าใกล้พระนะ เดี๋ยวบาป"
เด็กอนุบาลจำได้ขึ้นใจ "พระคือตัวบาป"
อีกสี่วันต่อมา พระเข้าไปในโรงเรียนแห่งนั้นพอดี เด็กอนุบาลคนนั้นเรียกเพื่อนให้มาดูแล้วพูดว่า
"นี่เธอ อย่าเข้าใกล้พระนะ พระเป็นตัวบาป"
เวรกรรมของพระจริง ๆ นี่แหละเขาจึงพูดว่า...
"เด็กอนุบาล เชื่อคุณครู
เด็กประถม เชื่อพ่อแม่
เด็กมัธยม เชื่อเพื่อน
ปริญญาตรี เชื่อตำรา
ปริญญาโท เชื่อตัวเอง
ปริญญาเอกไม่เชื่อใคร แต่เชื่อหมอดู..."
พระติดคุก
มีอยู่ครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่เรือนจำไปรับพระที่วัดพระธาตุพนม เพื่อไปบรรยายให้ผู้ถูกคุมขังฟัง บางครั้งเจ้าหน้าที่เอารถตู้ไปรับ พอรถตู้ไม่อยู่ก็เอารถปิคอัพไปรับ บางครั้งรถตู้และรถปิคอัพไม่อยู่...เอารถเรือจำไปรับ แค่เห็นสีรถก็หมดอนาคตแล้ว...ใครขึ้นรถเป็นคนสุดท้ายพอนั่งเสร็จ เจ้าหน้าที่จะปิดประตูดังปัง...ล็อกแก๊ก...จะล็อกทำไม ? คงเป็นสัญชาตญาณของเจ้าหน้าที่ว่า ใครก็ตามที่ขึ้นรถคันนี้ต้องล็อกเอาไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัย เจ้านายสอนไว้
จุดไคลแม็กซ์ไม่ได้อยู่ตรงนั้นนะคุณโยม...แต่อยู่ที่รถเรือนจำติดไฟแดง...ขณะนั้นนั่นเอง เด็กอนุบาลซ้อนท้ายรถจักยานยนต์มากับแม่ เด็กได้สะกิดบอกแม่ว่า...
"แม่...แม่ !...พระ ติด คุก"
"เปล่านะ พระไม่ได้ติดคุก...พระจะไปบรรยายที่เรือนจำให้นักโทษฟังกัน"
พระกำลังจะส่งสัญญาณบอกเด็ก แต่มันสายไปเสียแล้ว...โชคไม่เข้าข้างพระเสียเลย รถออกไปซะก่อน ปล่อยให้เด็กอนุบาลจำติดตากับเหตุการณ์ครั้งนั้น...ถึงบางอ้อแล้วใช่ไหมว่า เด็กอนุบาลไร้เดียงสา
บริสุทธิ์จริง ๆ ชนิดไร้คู่แข่ง เวลาสอนโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์นี้ เด็กถามซื่อตรง ๆ ต่างถามว่า "ทำไมพระอาจารย์โกนหัว โกนคิ้วตลกดี" เราต้องวกเอาเหตุผลที่เขาฟังแล้วต้องเข้าใจได้...
พระมาเป็นฝูง
ชาวพุทธเราหลายคนโดยเฉพาะผู้เป็นพ่อแม่ไม่ค่อยมีเวลาสอนลูกในการทำบุญตักบาตรสักเท่าไรนัก เวลาจะใส่บาตรทั้งทีก็บกให้ลูกหลานไปดูต้นทางก่อนว่า พระมาหรือยังและมีจำนวนเท่าไหร่ ?
แม่ตะโกนถามลูกว่า "ลูก พระมาหรือยัง ?"
ลูกตอบทันที่ว่า "มา แล้ว คะ แม่"
"มาเยอะไหมลูก ?"
"มา ๓ อัน คะ แม่"
ตอบอย่างนี้ แสดงว่าเห็นพระเป็นอุปกรณ์ประดับรถยนต์แน่เลย วันต่อมา...ให้ลูกไปดูต้นทางอีก แม่ถามลูกว่า "ลูก...พระมาหรือยัง ?"
ลูกตอบว่า "มา แล้ว ค่ะ แม่"
ผู้เป็นแม่ถามว่า "วันนี้ พระมาเยอะไหมลูก ?"
ลูกก็ตอบ "มาเป็นฝูงเลย"
แหม !...ตอบอย่างนี้ยังกะเห็นพระเป็นฝูงนกแพกวินยังงัย ยังงั้น...สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง...ทีนี้ก็เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะต้องคอยบอกกล่าวสั่งสอนในทางที่ถูกต้อง
.............................
จากหนังสือ...ธรรมะ...ปาร์ตี้ แฮปปี้...เถอะโยม
พระมหาสนอง ปัจโจปการี