วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บุญมี....แต่กรรมบัง



เขียนโดย....พระมหาสนอง  ปัจโจปการี


พูดกันมานานแล้วว่า  "บุญทำกรรมแต่ง แข่งเรือแข่งพายแข่งได้  แต่แข่งบุญวาสนานั้นแข่งกันไม่ได้" จากคำพูดที่ว่ามานี้  บางคนว่าจริง  บางคนก็บอกว่าไม่ใช่  ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยหลายอย่างเป็นสิ่งประกอบ

พูดถึงคำว่า "บุญ"  อาตมาขออธิบายให้คุณโยมเข้าใจง่าย ๆ อย่างนี้  "บุญ"  ในทางพระพุทธศาสนา เป็นเรื่องของความสุข  "บุญ"  คือเครื่องชำระจิตใจให้บรสุทธิ์  สรุปง่าย ๆ  เลยว่า "บุญ"  คือความสุขกายสบายใจ

"กรรม"  แปลว่า  "การกระทำ"  กับคำพูดที่ว่า  "ทำดีได้ดี  ทำชั่วได้ชั่ว"  ยังมีบางคนอวดดี  พูดทีเล่นทีจริงว่า  "ทำดีได้ดีมีที่ไหน  ทำชั่วได้ดีมีถมไป"  แหม!  มีปากไว้พูดจริง ๆ คนพวกนี้  "สวรรค์ไล่ส่ง  นรกจัดไปให้เต็ม ๆ "

คุณโยมรู้มั้ย  คนไม่มีบุญจะมีลักษณะอย่างไร  ลักษณะจะเป็นอย่างนี้นะ  "บูดตอนเช้า  เน่าตอนเพล  เหม็นตอนค่ำ ตกต่ำเมื่อตอนกลางคืน  โศกสะอื้นเมื่อตอนใกล้แจ้ง  และยิ้มแห้ง ๆ เมื่อตอนตื่นนอน"  คนประเภทนี้น่าทำความรู้จักมั้ย?  ใครเห็นก็เซ็ง !

สำหรับคนที่มีบุญ  ลักษณะจะเป็นอย่างนี้นะคุณโยม
"เป็นสุขเมื่อตอนตื่น สดชื่นตอนสาย  สบายตอนเพล  เยือกเย็นตอนค่ำ  ปฏิบัติธรรมตอนกลางคืน"  นอกจากนี้แล้ว  คนที่ไม่มีบุญ  ตอนเป็นเด็ก  "ก็โง่เขลา ถึงวัยเยาว์ก็ยิ่งแย่  แก่ตัวมีแต่ตัณหา เมื่อถึงวัยชราก็วุ่นวาย  ถึงตอนตายก็ไม่สงบ"

ต่างจากคนมีบุญราวฟ้ากับเหว  "คนมีบุญ เป็นเด็กชุ่มชื่น เป็นหนุ่มก็เข้าท่า เมื่อแก่ตัวยังมีสง่า เข้าวัยชราก็สบาย  ตายไปก็สงบ"  เห็นมั้ยว่าแตกต่างกันลิบเลย  แล้วอย่างนี้คุณโยมจะเลือกที่จะเป็นคนมีบุญหรือไม่มีบุญ...อะไรเห็นว่าดีก็ทำเอา

"บุญทำกรรมแต่ง"  จริง ๆ แล้วไม่มีใครหลีกหนีบุญกรรมไปได้  อาตมาขอยกตัวอย่างสักหนึ่งเรื่อง  รถตู้คันหนึ่งเดินทางไปต่างจังหวัด  มีผู้โดยสารนั่งกันเต็มรถ  ระหว่างทางก็แวะจอดเติมน้ำมัน  คนขับรถบอกผู้โดยสารว่า  ใครจะแวะดื่มกาแฟหรือทำธุระส่วนตัวก้ได้  ให้เวลา ๑๐ นาที  ครบกำหนดเวลา บังเอิญคนขับไม่ได้เช็คจำนวน ว่ากลับมาขึ้นรถครบทุกคนหรือยัง

บังเอิญมีผู้โดยสารคนหนึ่ง  เผลอไปทำธุระส่วนตัวนานไปหน่อย  กลับมาขึ้นรถไม่ทัน  หลังจากที่รถตู้คันนั้น  แล่นออกจากปั้มน้ำมันไปไม่ได้นาน เกิดอุบัติเหหตุ เบรกแตกรถตกเขา ผู้โดยสารตายเรียบทั้งคันรถ  ถามว่า ผู้โดยสารที่มาขึ้นรถไม่ทันนั้น  มีบุญหรือมีกรรม  เรื่องอย่างนี้คิดไปได้หลายแบบ

บุญและบาปที่แต่ละคนสร้างไว้   จะเป็นเครื่องพิสูจน์ จะบันดาลให้เป็นไปโดยไม่ต้องสงสัย  อาจบอกได้ว่า  บุญหรือกรรมที่เราเสวยในชาตินี้  เป็นตัวหนุนนำทำให้เรามีชีวิตอยูต่อไป  คงไม่ต่างกับผลไม้ที่เราบริโภคอยู่ทุกวันนี้  เราไม่สามารถปลูกมังคุดวันนี้  แล้วออกผลกินได้เลย  แต่เป็นผลที่เกิดมาจากมังคุดที่เราปลูกไว้เมื่อหลายปีก่อนโน้น  ถามโยมว่า  เราจะกินแต่มังคุดอย่างเดียวเท่านั้นหรือ  ต่อไปเราจะกินอะไร?  ถ้าเราไม่ปลูกผลไม้ชนิดอื่นบ้าง

มนุษย์ทุกคนล้วนมีบุญและกรรมเป็นตัวหนุนทั้งนั้น จะได้ดีหรือล้มเหลวในชีวิต  ขึ้นอยู่กับการกระทำในอดีต  ดังคำที่ว่า  "ยามบุญมา  วาสนาช่วย  ที่ป่วยก็หาย  ที่หน่ายก็รัก  ยามบุญไม่มา  วาสนาก็ไม่ช่วย  ที่ป่วยก็หนัก  ที่รักก็หน่าย"  ชีวิตของคนเรามีขึ้นมีลง  มีทุกข์และมีสุข  สมหวังและผิดหวัง คละเคล้ากันไป  ไม่ต่างจากน้ำในทะเล  มีขึ้นก็ต้องมีลงเป็นสิ่งแน่นอน


                                                                                                        ยังมีต่ออีกค่ะ...........

                                                        .......................................