วันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2566

มนุษย์มิจฉา ( ตอน 2)

 นับตั้งแต่วันแรกที่เราได้ช่วยเหลือผู้ชายผู้น่าสงสารคนหนึ่ง  เรามีความสุขมากที่รู้ว่าเขาก็มีความสุข วันที่เราบอกว่าจะช่วยเหลือเขาเรื่องการเงิน เขาตื่นเต้นจนน้ำเสียงของเขาคลอ จับความรู้สึกได้ชัดเจนว่าเขามีความปลื้มปิติมาก เขาได้พูดออกมาว่า " ผมจะบวชเป็นการตอบแทนบุญคุณป้าทั้งสอง เมื่อหลานผมโตช่วยเหลือตัวเองได้แล้วครับ"  ผู้เขียนรีบปฏิเสธทันที " เราไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใดๆ จากเธอเลย เราอยากให้เธอมีอาชีพเป็นหลัก เพื่อจะได้ไม่ลำบากในยามแก่เฒ่า" 

ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เราได้โอนเงินช่วยเหลือผู้ชายคนนี้ถึง 11 ครั้ง มันเป็นจำนวนร่วมแสนบาท เพราะเขามีปัญหาเยอะมาก เขาเป็นหนี้นอกระบบหลายแห่ง เราก็ให้เงินเขาไปชำระหนี้ทุกแห่ง เรียกว่าปลอดหนี้ให้ เราหวังที่จะได้เห็นเขามีอาชีพเป็นของตนเอง เพราะเขาเคยพูดว่า ถ้าเขามีรถสามล้อเครื่อง เขาก็จะสามารถค้าขายและบริการรับจ้างขนของ,ขนผักและรับจ้างหรือรับส่งคนก็ได้ เราก็คิดว่าคงจะดีอย่างที่เขาพูด 

พอได้รถไปเขาก็เอาไปรับจ้างขนผักอยู่ไม่กี่ครั้งก็เงียบไป มีครั้งหนึ่งบังเอิญรับพระไปส่งที่วัด แล้วก็เอาไว้ส่งและรับหลานไปโรงเรียน ดูแล้วชักจะไม่ค่อยเป็นไปที่เขาได้พูดไว้ แต่เราก็ไม่ทักท้วงเขา ว่าทำไมถึงไม่ทำตามที่พูดไว้

ผู้เขียนมักจะพูดย้ำเตือนเขาเสมอๆ ว่า ให้มีความซื่อสัตย์สุจริตและขยันอดทน ให้คิดดี พูดดี ทำดีไว้ ชีวิตจะได้ประสบกับความสำเร็จ เขาก็จะตอบว่า " ครับผม"  เรารอดูว่าเขาจะคิดทำอะไรบ้าง เขาจะลายน์โทรคุยส่งข่าวทุกวัน บางวัน 2-3 เวลา สังเกตดูจะเป็นเวลาที่เขากินอาหาร ก็จะกินไปคุยไปด้วย ทำเหมือนกับว่าเขาว่างเวลากินเท่านั้น เขาอ้างว่าต้องวิ่งส่งอาหารทั้งวัน บางวันวิ่งถึงเที่ยงคืน เลยไม่มีเวลาทำอย่างอื่น เราก็บอกเขาว่า ดีแล้วที่มีงานทำ งานค้าขายพักไว้ก่อนก็ได้  

อยู่มาวันหนึ่งเขาโทรมาบอกว่า เขาจะวิ่งลายน์แมนแค่ช่วงบ่ายถึงเที่ยงคืน ช่วงเช้าเขาจะเร่ขายผักผลไม้และขนมในหมู่บ้าน พวกเราก็มีความเห็นด้วยกับความคิดของเขา ในวันรุ่งขึ้นเขาส่งรูปรถสามล้อเครื่องที่เต็มไปด้วยผัก,ผลไม้และขนมห้อยเต็มรถ มาให้เราดูตั้งแต่เรายังไม่ตื่นกัน ตอนสายๆ เขาโทรมาบอกว่าขายของหมดแล้ว พอเราได้ยินเช่นนั้น ก็ดีใจที่เขาจะเริ่มมีอาชีพเป็นของตนเองซะที 

ขายของไปได้ไม่กี่วัน มาบ่นให้พวกเราฟังว่า มีหลายคนในหมู่บ้านเขาต้องการพวกเนื้อสัตว์ ถ้ามีเนื้อสัตว์ติดไปขายบ้าง ก็คงจะขายดีกว่านี้มาก เราได้ฟังแล้วก็เห็นว่า น่าจะให้การสนับสนุน จึงได้รีบโอนเงินเป็นทุนค่าเนื้อสัตว์ให้ทันที พอขายไปได้ไม่กี่วัน ก็มาบ่นว่าช่วงนี้ขายไม่ดีฝนตกบ่อย จะขอวิ่งลายน์แมนเต็มวัน เราก็ไม่ว่าอะไรเพราะรถมอเตอร์ไซค์ก็ซื้อให้ใหม่แล้ว คงจะวิ่งได้โดยไม่มีปัญหา พอวิ่งไปได้ไม่กี่วันก็มาบ่นให้ฟังว่า ทางบริษัทบล็อกไลน์ เขาให้หยุดทำงานเพราะหลานชอบโทรตอนรับออเดอร์ เลยไม่มีรายได้ ไม่มีเงินซื้ออาหารให้หลาน เราก็สงสารกลัวว่าเด็กจะอด รีบโอนเงินให้เป็นค่าขนมและอาหาร เราโอนเงินให้เขาโดยไม่ได้คิดอะไรเลย มีแต่คิดอยากให้เขามีความสุข ไม่อยากให้เขาเครียดเหมือนเมื่อก่อน

เรื่องความคิดใหม่ๆ ของผู้ชายคนนี้มีแทบทุกวัน ช่วงต้นเดือนเมษา โทรมาบอกว่าจะขายลอดช่องไทยและน้ำแข็งปั่น จะได้ฤกษ์เปิดตัวในวันสงกรานต์  จึงอยากจะขอทุนสำหรับซื้ออุปกรณ์ต่างๆ เราก็รีบโอนเงินให้เป็นจำนวนหลักหมื่น พอใกล้จะถึงวันสงกรานต์ เขาบอกว่าต้องทำก่อนวันสงกรานต์ เราก็ว่าแล้วแต่สะดวกก็แล้วกัน วันที่ 12 เมษา โทรมาบอกว่าได้ขายลอดช่องไทยหมดแล้ว คือประเดิมก่อนด้วยการแจกคนกินฟรี และเอาไปถวายพระที่วัดด้วย เราก็ไม่ว่าอะไรและคิดว่าคงจะดีเพราะได้ทำบุญทำทานก่อน พอถึงวันสงกรานต์ก็บอกว่า คนเยอะและรถเยอะมาก เข้าไปขายในเมืองไม่ได้ ในหมู่บ้านก็ไม่มีคนอยากกิน เขาไปเที่ยวกันหมด เราก็ไม่ว่าอะไรคิดว่าสักวันเขาก็ต้องขายเพราะมีอุปกรณ์ทุกอย่างแล้ว จะขายเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ที่รู้ๆ คือเขาไม่มีทุนที่จะซื้อลอดช่องและน้ำแข็ง แต่เขาไม่กล้าขออีก

เราลงทุนไปมากแล้ว ยังไม่เห็นเขาทำอะไรจริงจัง ให้เป็นรูปธรรมขึ้นมาสักอย่างเลย จึงได้ตัดสินใจปิดการติดต่อสักระยะ เราบล็อกไลน์เขาประมาณ 1 เดือน พอเปิดไลน์ให้เขาติดต่อได้ เขารีบส่งรูปขายแซนวิสและน้ำแข็งปั่นมาให้ดู เราเห็นรูปก็ดีใจ คิดว่าเขาตั้งใจค้าขายจริงๆ เขาขอทุนซื้อตู้ใส่ขนมเค้ก อ้างว่าตู้ที่ใช้อยู่ มดเข้าได้และเวลาฝนตกน้ำเข้าตู้ ทำให้ขนมเปียกหมด เรารีบโอนเงินให้ทันที เขาก็ไปสั่งช่างทำตู้ที่แน่นหนาและแข็งแรงกว่าตู้เดิม จากนั่นก็ขายแซนวิสไประยะหนึ่ง เกิดมีปัญหากับทางเจ้าของแซนวิสที่ไปรับมาขาย เลยเลิกขายไป 

ต่อมาก็มีไอเดียใหม่อีก จะขายลูกชิ้นปิ้งและน้ำแข็งปั่น ขอทุนซื้อเตาแก็สและลูกชิ้น เราก็คิดว่าคราวนี่คงจะไปได้สวยงามเพราะไม่ต้องไปรับของจากคนอื่น เขาก็ส่งรูปขายลูกชิ้นไปให้ดู บางครั้งก็มีหลานไปช่วยขายด้วย ดูท่าจะเอาจริงแน่งานนี้ เที่ยวเร่ขายจนหมดทุกวัน ช่วงนั้นเขามีเงินใช้และนั่งกินอาหารตามสั่งบ่อยขึ้น เราก็ไม่ได้คิดเอะใจอะไรเกี่ยวกับพฤติกรรมต่างๆ ของเขา เห็นเขาขายของมีรายได้มีกำไรดี ก็ดีใจกับเขาและคิดว่าเขาคงจะทำจริงและยึดเป็นอาชีพได้ 

ไอเดียของผู้ชายคนนี้เยอะมากจริงๆ มีอยู่วันหนึ่งเขาบอกว่า เขาอยากจะมีบ้านเล็กๆ สักหลังเป็นของตัวเอง บ้านผ่อนที่ไม่แพงมาก เมื่อแก่ไปเขาจะได้ทำของขายที่หน้าบ้านได้ หลานก็อยู่กับเขาได้ เราก็ว่าเป็นความคิดที่ดี จึงบอกเขาลองมองๆ ดู ว่ามีบ้านราคาถูกๆ ที่ไหนบ้าง หาบ้านที่เขาเอาไปเข้าธนาคารแล้วหลุดการผ่อนก็ได้ เขาก็ไปหาดูจนกระทั่งพบบ้านหลังเล็กๆ หลังหนึ่ง